สภาพอากาศที่เต็มไปด้วยมลพิษ หรือจะเป็นความเครียดจากการงาน สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นต้นเหตุที่ทำให้คุณนั้นมีสุขภาพที่ไม่ดี ดังนั้นการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ก็นับว่าเป็นวิธีที่ดีที่จะ เสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรคให้สามารถต่อสู้กับเชื้อโรคต่างๆได้ โดยเฉพาะ " บร็อคโคลี่ "
บร็อคโคลี่
ภาษาอังกฤษ Broccoli บร็อคโคลี่
ชื่อวิทยาศาสตร์ Brassica oleracea var. italica จัดอยู่ในตระกูล
Cruciferae บร็อคโคลี่เป็นพืชผักเมืองหนาวมีถิ่นเดิมอยู่ทางตอนใต้ของยุโรปหรือแถว
ๆ ประเทศอิตาลี เริ่มมีมาก และนำเข้ามาปลูกในประเทศไทย โดยในระยะแรก ๆ
ทำการปลูกทางแถบภาคเหนือ ซึ่งผลผลิตมีน้อย ราคาในช่วงนั้นจึงค่อนข้างแพง
เนื่องจากเป็นของแปลกใหม่และมีได้เฉพาะฤดูหนาวเท่านั้น
แต่ในปัจจุบันได้มีการปรับปรุงพันธุ์ให้ทนร้อนได้มากขึ้น
ในช่วงฤดูการผลิตจึงสามารถปลูกในภาคอื่นได้เหมือนกัน
แต่สำหรับนอกฤดูนั้นปลูกได้เฉพาะทางภาคเหนือที่มีอากาศเย็นบางเขตเท่านั้น
ลักษณะภายนอกของบร็อคโคลี่
จะมีใบกว้างสีเขียวเข้มออกเทา ริมขอบใบเป็นหยัก ทรงพุ่มใหญ่เก้งก้าง
ลำต้นใหญ่และอวบ ดอกอยู่รวมกันเป็นกลุ่มช่อหนาแน่นดูเป็นฝอย ๆ สีเขียวเข้ม ดอกมีขนาดใหญ่
เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 16 เซนติเมตร โดยทั่วไปนิยมกินตรงส่วนที่เป็นดอกและลำต้นจะนิยมรองลงมา
แต่ในด้านคุณค่าทางอาหาร โดยเฉพาะวิตามินซี กลับมีอยู่มากในส่วนของลำต้น ด้งนั้นหลังจากเก็บบร็อคโคลี่ไว้นานพบว่าดอกกลายเป็นสีเหลือง
อย่าเพิ่งทิ้ง นำส่วนของลำต้นมาทำอาหารรับประทานได้และดีกว่าด้วย บร็อคโคลี่มีรสหวาน
กรอบ จึงเป็นที่นิยมกันมากขึ้นเรื่อย ๆ
บร็อคโคลี่เป็นผักที่มีประโยชน์
มีคุณค่าทางอาหารสูง อุดมไปด้วยเบต้าแคโรทีน (betacarotene)
เส้นใยอาหาร วิตามินซี รวมไปถึงสารอาหารต่างๆ อีกหลากหลายชนิด
มีสารซัลโฟราเฟน (sulforaphane) ซึ่งเป็นตัวช่วยทำให้ตับขับสารพิษ
ส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกัน และยับยั้งการเจริญของเนื้องอก อีกทั้งยังมีคุณสมบัติพิเศษในการต่อต้านมะเร็ง
คือ สามารถป้องกันอนุมูลอิสระที่เข้าไปทำลายเซลล์และทำลาย ดีเอ็นเอ ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดมะเร็งได้ ต้นอ่อนของบร็อคโคลี่จะช่วยต่อต้านโรคมะเร็งได้อย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น
เกือบ 2 เท่า ! เนื่องจากในหน่อหรือต้นอ่อนบร็อคโคลี่นั้นมีเอนไซม์ไมโรซิเนส (Myrosinase)
จะมีปริมาณมากกว่าต้นบร็อคโคลี่ที่โตแล้ว ซึ่งการรับประทานบร็อคโคลี่เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดจะต้องไม่ผ่านกรรมวิธี
การปรุงอาหารที่มีระยะเวลานานจนเกินไป เพราะจะไปทำลายเอนไซม์ไมโรซิเนสและซัลโฟราเฟนได้
บร็อคโคลี่เป็นผักที่รสชาติหวานกรอบ
สามารถรับประทานสดได้ หรือจะนำมาประกอบอาหาร ก็ได้หลากหลายเมนู อีกทั้งบร็อคโคลี่ยังมีคุณค่าทางสารอาหารที่สูงด้วย
เพราะอุดมไปด้วยเส้นใยอาหาร เบต้าแคโรทีน วิตามิน C และสารอาหารอื่นๆอีกมากมาย
รวมไปถึงสารเคมีทางธรรมชาติที่มีชื่อว่า ซัลโฟราเฟน (Sulforaphane) และสารอินดอล (indole) ซึ่งเป็นสารที่มีคุณสมบัติช่วยต่อต้านมะเร็ง
และการรับประทานบร็อคโคลี่อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1/2 ถ้วย ก็จะเป็นผลดีต่อสุขภาพอย่างมาก
โดยเมนูจากบร็อคโคลี่ก็มีมากมายทั้ง
บร็อคโคลี่ผัดกุ้งน้ำมันหอย สลัด
บร็อคโคลี่ แซลม่อนผักบร็อคโคลี่ ยำบร็อคโคลี่ หรือจะนำมาใส่กับ ข้าวผัด ผัดมักกะโรนี
ผัดซีอิ๊วและราดหน้า ก็ได้ หรือจะทำเป็นน้ำบร็อคโคลี่ไว้ดื่มแก้กระหายและเพิ่มความสดชื่นได้อย่างง่ายๆ
โดยการนำก้านบร็อคโคลี่ปอกเปลือกหั่นเป็นชิ้นๆ 10 – 15 ชิ้น ใส่เครื่องคั้นแยกกากรวมกับแอปเปิ้ลครึ่งผล
ก็จะได้น้ำบร็อคโคลี่ที่อร่อยและมีคุณค่าทางโภชนาการสูงแล้ว ด้วยความอร่อย รับประทานง่ายและได้ประโยชน์จึงทำให้ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่า
บร็อคโคลี่ นั้นเป็นสุดยอดผักสำหรับคุณและคนที่คุณรัก รับรองว่าคุณจะต้องชอบทาน บร็อคโคลี่
กันทุกวันอย่างแน่นอนเลยค่ะ
นั้นเรามาดูสรรพคุณและประโยชน์ของบร็อคโคลี่กันเลยดีกว่าค่ะ
ประโยชน์ของบร็อคโคลี่
1. ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ
ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย
2. ช่วยบำรุงผิวพรรณ เพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิวหนัง
ช่วยชะลอผิวพรรณไม่ให้เหี่ยวย่น ทำให้ดูอ่อนเยาว์ตลอดเวลา (ซีลีเนียม)
3. ช่วยบำรุงและรักษาสายตา ป้องกันการเกิดต้อกระจก
4. ช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง
ป้องกันโรคกระดูกพรุน เรื่องจากบร็อคโคลี่เป็นผักที่มีแคลเซียมสูง
5. ช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งต่างๆ เช่น มะเร็งเต้านม
มะเร็งปอด มะเร็งผิวหนัง มะเร็งกระเพาะอาหาร และมะเร็งต่อมลูกหมาก โดยสามารถ
6. ช่วยป้องกันอนุมูลอิสระที่จะเข้าไปทำลายเซลล์และทำลาย
DNA
ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดโรคมะเร็ง
7. ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเนื้องอก
8. ช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจ
9. ผักในตระกูลกะหล่ำ
มีความสัมพันธ์กับการช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดภาวะหัวใจวาย
และโรคหลอดเลือดสมองได้ (Strokes)
10. ช่วยป้องกันโรคความดันโลหิตสูง
11. ช่วยทำให้หลอดเลือดแข็งแรงยิ่งขึ้น
12. ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดโรคปอดร้ายแรง
จากงานวิจัยของ ดร.ชีแอม บิสวัล (วิทยาลัยแพทยศาสตร์จอห์นส ฮอฟกินส์ USA)
พบว่าสารในบร็อคโคลี่อาจช่วยยับยั้งการทำลายที่นำไปสู่ไปการเป็นโรคปอดร้าย
แรง หรือที่เรียกว่าโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังได้ (Chronic Obsructive
Pulmonary Disease หรือ COPD) โดยโรค COPD
มักมีสาเหตุมาจากการสูบบุหรี่ โดยสารซัลโฟราเฟนในบร็อคโคลี่จะช่วยส่งเสริมให้ยีน
NRF2 ในเซลล์ปอดเกิดกิจกรรมเพิ่มขึ้น จึงช่วยป้องกันเซลล์ดังกล่าวไม่ให้ถูกทำลายจากสารพิษต่างๆในกลุ่มผู้สูบ
บุหรี่ได้ และผู้ป่วย COPD ระยะก้าวหน้าจะมีการทำกิจกรรมกับยีน
NRF2 ในระดับต่ำกว่ากลุ่มอื่น โดยยีนดังกล่าวจะทำหน้าที่เปิดให้กลไกหลายอย่างเพื่อขับพิษและสารก่อพิษ
ต่างๆทำงาน เพื่อไม่ให้สารพิษทำลายเซลล์ปอด
13. ช่วยป้องกันการเกิดโรคเบาหวาน
14. สารซัลโฟราเฟนสามารถช่วยป้องกันการทำลายของหลอดเลือดที่เกิดจากโรคเบาหวานได้มีส่วนช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล
15. ช่วยป้องกันโรคอัลไซเมอร์
จากงานวิจัยของมหาวิทยาลัยคิง คอลเลจ ลอนดอน ระบุว่ามีเพียงผักผลไม้ 5 ชนิดเท่านั้นที่มีารประกอบที่ทำหน้าที่คล้ายยาที่ใช้รักษาโรคอัลไซเมอร์
ซึ่งได้แก่ บร็อคโคลี่ส้ม แอ็ปเปิ้ล หัวไซ้เท้า และมันฝรั่งโดยบร็อคโคลี่นั้นเป็นผักที่มีสารดังกล่าวมากที่สุด
16. ช่วยป้องกันความผิดปกติของเด็กแรกเกิด
17. ช่วยป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟันเนื่องจากบร็อคโคลี่วิตามินซีที่สูงมาก
18. บร็อคโคลี่มีส่วนช่วยลดความถี่ของอาการไมเกรนลง
เนื่องจากเป็นผักที่มีแมกนีเซียมสูง
19. สารซัลโฟราเฟนในบร็อคโคลี่
เป็นตัวช่วยทำให้ตับขับสารพิษในร่างกาย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งบร็อคโคลี่ต้นอ่อนที่มีอายุเพียง 3 วัน
20. ช่วยในการขับถ่าย
ป้องกันโรคท้องผูก
21. บร็อคโคลี่มีสารเคอร์เซทิน (Quercetin) ซึ่งเป็นตัวช่วยเพิ่มความอึด
แรงดี ออกกำลังได้นานขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันโรคหอบหืด ภูมิแพ้ มะเร็ง โรคหัวใจได้อีกด้วย
22. การรับประทานบร็อคโคลี่จะช่วยป้องกันและลดการลุกลามของโรคมะเร็งกระเพาะ
ปัสสาวะ ซึ่งเป็นเซลล์ที่มีแนวโน้มการแข่งตัวอย่างรวดเร็ว (งานวิจัยของคุณหมอ
Steven Schwartz มหาวิทยาลัย Ohio State University เมือง Columbus)
23. ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคไขข้อ
24. บร็อกโคลี่มีโฟเลตสูง
ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับหญิงตั้งครรภ์ในระยะเริ่มแรก
เพราะช่วยลดความเสี่ยงจากการพิการทางสมองของเด็กรารก
25. ผักบร็อคโคลี่สามารถนำมาประกอบอาหารได้หลากหลายเมนู
เช่น บร็อคโคลี่ผัดกุ้ง ผัดหมี่ ซุป พิซซา พาสต้า เสต็ก สลัด ยำ ฯลฯ หรือจะนำมาใส่กับข้าวผัด
ผัดซีอิ้ว ราดหน้า ผัดมักกะโรนีก็ได้เช่นกัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น